หมดฤดูกาลประกาศผลประกอบการ 1Q24 ของบริษัทจดทะเบียนแล้ว นักลงทุนสนใจ “หุ้นเครื่องดื่ม” หลังส่วนใหญ่รายงานกำไรสุทธิโดดเด่นและเติบโตดี แถมนักวิเคราะห์ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานในอนาคต
และเมื่อถึงฤดูร้อน ซึ่งปกติแล้วจะเป็นช่วงพีคของผลการดำเนินงาน และเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สต๊อกเครื่องดื่มน่าดูมากยิ่งขึ้น “เงินไทยรัฐ” ได้รวบรวม 5 หุ้นเครื่องดื่มชื่อดัง ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มาให้นักลงทุนพิจารณากัน จากข้อมูลพบว่าหุ้นบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP รายงานกำไรสุทธิสูงสุดในไตรมาสแรก
1.หุ้น OSP: บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)
เริ่มกันที่บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น OSP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2567 อยู่ที่ 828 ล้านบาท เติบโต 6.5% จากปีก่อน โดยมีกำไรจาก
ที่แนะนำ
ไทยจับกระแสการลงทุนครั้งใหญ่ อุตสาหกรรมโลกเปลี่ยนฐานการผลิต
ไทยจับกระแสการลงทุนครั้งใหญ่ อุตสาหกรรมโลกเปลี่ยนฐานการผลิต
GMM ดันศิลปินไทยสู่ตลาดโลก
GMM ดันศิลปินไทยสู่ตลาดโลก
ราคาทองคำล่าสุดวันนี้ 13 พ.ค. 2567 ราคาคงที่ ราคาทองคำแท่ง บาทละ 41,100 บาท
ราคาทองคำล่าสุดวันนี้ 13 พ.ค. 2567 ราคาคงที่ ราคาทองคำแท่ง บาทละ 41,100 บาท
“สุริยะ” เปิดตัว “รถไฟความเร็วสูง”
“สุริยะ” เปิดตัว “รถไฟความเร็วสูง”
การดำเนินงานปกติยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น 73.2% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.4% เพิ่มขึ้น 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า OSP รายงานกำไรสุทธิเป็นไปตามคาด ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัวจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ประกอบกับยอดขายในต่างประเทศที่เติบโตดีโดยเฉพาะเมียนมาร์และลาว แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้านก็ตาม
ในขณะเดียวกันส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานในประเทศฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 46.4% ใกล้เคียงกับสมมติฐานที่คาดว่าจะทรงตัวในช่วง 46.5-47.0% ในปี 2567-2568 คาดกำไร 2Q67 เติบโต อย่างต่อเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน และโมเมนตัมการขายในตลาดต่างประเทศยังคงดีอยู่ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 24.00 บาท
- หุ้น SAPPE : บริษัท SAPPE จำกัด (มหาชน)
หุ้นบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2567 อยู่ที่ 352.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรสุทธิรายไตรมาสสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท หรือคิดเป็น 19.2% ของการเติบโตของรายได้จากการขาย กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 28.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรปกติมีโอกาสทำ New Highs ต่อไปจนถึงไตรมาส 3 ปี 2567 เพราะไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทจะรับรู้กำลังการผลิตใหม่เต็มไตรมาส และไตรมาสที่ 3 ปี 2567 จะเป็นช่วงเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจคือช่วงฤดูร้อนในยุโรป นอกจากนี้เรายังได้รับปัจจัยบวกจากงานโอลิมปิกฤดูร้อนที่ช่วยสนับสนุนการบริโภคในภูมิภาคยุโรปอีกด้วย
ทั้งนี้ SAPPE มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรปี 2557 แม้ว่าจะมีปัจจัยลบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2567 แต่เนื่องจากความนิยมของผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คาดว่ากำไรปกติของบริษัทจะยังคงทำสถิติสูงสุดต่อไปแม้จะมีฐานสูงในปี 2566 โดยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ที่ 1,345 ล้านบาท เติบโต 24.0% และคงราคาที่เหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 เวลา 110.00 บาท
- หุ้น ICHI : บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ICHI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2567 อยู่ที่ 363.8 ล้านบาท หรืออัตรากำไรสุทธิ 17% เติบโต 64.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 221.7 ล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของกลุ่มตลาดชาพร้อมดื่ม และผลิตภัณฑ์ใหม่ ยอดขายจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10.6% จากรายได้จากการผลิตตามสัญญา
ฝ่ายความเห็นบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เผยมุมมองเชิงบวกต่อกำไรไตรมาส 1/67 สูงสุดในรอบ 10 ปีอยู่ที่ 364 ล้านบาท สูงกว่าคาด 8% และสูงกว่าตลาดคาด 11% ตามลำดับ จากอัตรากำไรขั้นต้น . และส่วนแบ่งกำไรจากอินโดนีเซียดีกว่าคาด โดยรวมแล้วกำไรดีทั้งรายได้และอัตรากำไร
มองกำไรปี 2567 คาดโต 10% ยังคงเป็นปีดีไม่มีข้อเสียแม้กระทบสภาพอากาศเริ่มเปลี่ยนลานีญาในครึ่งปีหลัง หากดูกำไรไตรมาส 2 ปี 2567 ยังสามารถเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วได้ และไตรมาสที่แล้วแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23.2 บาท โดยหุ้นซื้อขายอยู่ที่ระดับ P/E 19ต่ำกว่ากลุ่มถึง 6 เท่า และมีอัตราผลตอบแทนสูงสุดในกลุ่มที่ 5.5%
4.หุ้น CBG : บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
สำหรับหุ้นบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือหุ้นซีบีจี รายงานกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท ไตรมาส 1 ปี 2567 อยู่ที่ 628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สะท้อนต้นทุนการขายที่เพิ่มขึ้นซึ่งลดลง การควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการแบ่งปันสิทธิ์การสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอล EFL ให้กับบริษัทพันธมิตรในธุรกิจการผลิตเบียร์คาราบาวและตะวันแดงเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารและการตลาด
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1 เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศและรายได้จากการจัดจำหน่ายเบียร์ที่เพิ่มขึ้นซึ่งเริ่มจำหน่ายในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 แม้ว่ากำไรไตรมาส 1/67 จะคิดเป็น 26% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2567 แต่ประมาณการกำไรปี 2567 ยังคงอยู่ที่ 2,446 ล้านบาท
โดยคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 83.00 บาท คำแนะนำอยู่ในระยะสั้น “Outperform” โดยมีปัจจัยบวกจากการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง และคาดกำไรโตต่อจากซัมเมอร์ 2Q24 ดันยอดขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังเติบโตอีกครั้ง และเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 ปี 2567
- หุ้น TACC: T.A.C. บริษัท คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน)
ที.เอ.ซี. หุ้นบริษัท คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC รายงานผลการดำเนินงานว่ากลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 60.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.06 ล้านบาท หรือ 42.67% จากช่วงเดียวกันของปี จากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิของบริษัทเนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในปีปัจจุบัน และบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่จำเป็นต้องบันทึกส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทร่วม
บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่ากำไรสุทธิงวดนี้เติบโตแข็งแกร่ง หลังได้รับผลตอบรับที่ดีจากภาคการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว รวมถึงการเติบโตของ 7-11 ที่เปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2567 เรายังคงเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อน รวมถึงการเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามเรายังคงคาดรายได้ปี 2567 เติบโต 11% เป็น 1,894 ล้านบาท และคาดกำไรสุทธิ 237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากเดิม เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” แต่ควรระมัดระวัง เพราะราคาหุ้นอาจถูกกดดันจากบริษัทขายคืน 8 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 17 พ.ค. 2567 ถึง 18 พ.ค. 2568
ขอบคุณที่มา https://www.thairath.co.th/money/investment/stocks/2786097